บริษัทที่จำหน่ายแผ่นกันซึม TPO มักจะชอบพูดโจมตีแผ่นกันซึม PVC ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจผิดผู้ผลิตแผ่นกันซึม TPO เข้าใจดีว่าสมรภูมิรบไม่ได้อยู่ที่การนำเสนอนวัตกรรมใหม่แต่อยู่ที่อายุการใช้งานและประวัติการใช้งานจริงที่สามารถอ้างอิงได้ซึ่งแผ่นกันซึม PVC ได้เปรียบ TPO เต็มๆในประเด็นนี้เพราะถ้าหากจะเลือกใช้วัสดุแผ่นกันซึมจากพื้นฐานการอ้างอิง reference การใช้งานจริงแผ่นกันซึม TPO จะสอบตกทันที เพราะ แผ่นกันซึม PVC มีข้อมูลย้อนหลังถึง 40 ปีผู้จำหน่ายแผ่นกันซึม TPO จึงจำเป็นต้องทำการตลาดโดยเลือกพูดถึงจุดเด่นของวัสดุแต่สิ่งที่ลูกค้าควรคำนึงถึงคือ จุดเด่นทั้งหมดของแผ่นกันซึม TPO จะไม่มีค่าแต่อย่างใดหากนวัตกรรมที่ได้มาจำเป็นต้องแลกกับอายุการใช้งานที่สั้นลงซึ่งต้องใช้วิจารณญานว่าสุดท้ายแล้วได้คุ้มเสียหรือไม่

แผ่นกันซึม TPO และ PVC ไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นมาพร้อมกัน มีประวัติที่ต่างกันถึง 40 ปี แผ่นกันซึม PVC ถูกคิดค้นขึ้นมาในปี 1950 ที่ประเทศเยอรมัน เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุกันซึมหลังคาที่น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ราคาถูก และทนทาน ส่วนแผ่นกันซึม TPO ถูกคิดค้นขึ้นมาในปี 1993 ที่ประเทศอเมริกา เพื่อนำมาแข่งขันกับ แผ่นกันซึม PVC ที่มีความนิยมในตลาดอย่างสูง โดยที่จุดขายของ TPO คือ "cost saving" จากต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าแผ่นกันซึม PVC และการเปลี่ยนไปใช้ส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ไม่มีส่วนผสมของ plasticizer และ chloride) ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีกับการพัฒนาตลาดให้เกิดการแข่งขันให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น

แผ่นกันซึม TPO ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อนำมาเป็นทางเลือกที่มีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำกว่า PVC ส่งผลให้ทำราคาขายได้ต่ำกว่า (เฉพาะในต่างประเทศเท่านั้น) แต่ในเมืองไทย แผ่นกันซึม TPO ถูกการตลาดนำไปสร้างข้ออ้างว่า TPO เป็นสิ่งที่คิดค้นขึ้นมาใหม่เพื่อให้ดีกว่า PVC จึงต้องขายแพงกว่า ทำให้เหตุผลเรื่อง cost saving ของ TPO ไม่เกิดขึ้นในเมืองไทย ทั้งๆที่สิ่งนี้คือจุดขายหลักของ TPO

ประเด็นสำคัญที่ทำให้ แผ่นกันซึม PVC membrane เป็นที่นิยมอย่างสูงในตลาดคือ เมื่อติดตั้งแล้วจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และ แผ่นกันซึม PVC มีประวัติการใช้งานจริงที่ยาวนานมากว่า 40 ปี ด้วยเหตุผลนี้เราจึงควรเลือกใช้วัสดุที่ ผ่านการพิสูจน์โดยเวลาในโลกให้เราได้เห็น มากกว่าวัสดุใหม่ที่ยังไม่เห็นผลการใช้งานจริงในระยะยาว เพราะหลังคาบ้านลูกค้าไม่ใช้ห้องแล็ปทดสอบวัสดุใหม่ เรายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระยะยาวของแผ่นกันซึม TPO มากพอทำให้เรายังไม่สามารถคาดเดาอายุการใช้งานที่แท้จริงได้

ถ้าเราเอาประวัติการพัฒนาแผ่นกันซึม PVC มาศึกษาจะเห็นว่าวงจรการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทนี้อยู่บนพื้นฐานการ "ลองผิด ลองถูก" (trial & error) ซึ่งเริ่มต้นจากการคิดค้นสูตร (formulation) ในห้องแล็ป นำไปผลิต และนำไปใช้งาน สูตรการผลิตแผ่นกันซึม PVC ในยุคแรกๆก็ยังไม่สมบูรณ์ มีปัญหาคล้ายกับที่ แผ่นกันซึม TPO กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ เช่น ปัญหาแผ่นเกิดการแตกร้าวหลังนำไปใช้งาน ทำให้ผู้ผลิตต้องกลับไปปรับสูตร (reformulation) เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจาก defect ของกระบวนการผลิต กว่าสูตรการผลิตจะนิ่งและได้คุณภาพคงที่ ก็ใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากต้องผ่านการ reformulation สูตรอยู่หลายครั้ง และต้องมีการปรับมาตรฐานการผลิตผ่าน "DIN EN standard" กว่าจะได้สูตรที่คงที่

ดังนั้นเรื่องจริงที่พวก TPO ต้องทำความเข้าใจคือ ในกระบวนการพัฒนานั้น มีความจำเป็นที่จะต้องปล่อยให้ผลิตภัณฑ์เกิดความล้มเหลวเพื่อนำไปสู่การแก้ไขและพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งต้องใช้เวลาและข้อมูล feed back loop เพื่อนำกลับไปให้ผู้ผลิตปรับสูตรเพื่อแก้ปัญหา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่บุคลากรเพียงไม่กี่คนจะสามารถคิดค้นสูตรการผลิตแผ่นกันซึมที่สมบูรณ์แบบในห้องแล็ป โดยคำนึงถึงตัวแปรและสภาพแวดล้อมที่ผลิตภัณฑ์จะต้องไปพบเจอที่หน้างงานจริงได้อย่างครบถ้วน ด้วยเหตุนี้จึงไม่เป็นที่แปลกใจเมื่อพบว่า เริ่มมีรายงานปัญหาการใช้งานแผ่นกันซึม TPO หลังติดตั้งเพียงไม่กี่ปี ทยอยออกมาให้เราได้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาที่พบเป็นได้บ่อยคือแผ่นกันซึม TPO ไม่ทนความร้อนและรังสี UV ผิวด้านบนบางลงจนเห็นตาข่ายชั้นกลาง เกิดการแตกร้าวและน้ำเข้าในที่สุด

ดังนั้นมีเหตุผลอะไรที่เราจะเสี่ยงเลือกใช้วัสดุ TPO ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่เพียงเพื่อที่จะผลิตให้ได้คุณภาพเท่า PVC ที่มีอยู่แล้วในตลาด และนำมาจำหน่ายในราคาที่แพงขึ้นโดยที่ไม่มีหลักฐานอ้างอิงพิสูจน์ได้ว่ามีประสิทธิภาพ+อายุการใช้งานที่เหนือกว่า PVC

หลังจากที่เกิดปัญหาซ้ำบ่อยขึ้น ได้มีผู้ผลิตแผ่นกันซึม TPO บางเจ้าได้จัดงานสัมมนาเพื่อให้ข้อมูลว่า แผ่นกันซึม TPO ของผู้ผลิต TPO แต่ละเจ้าใช้สูตรการผลิตที่ "ไม่เหมือนกัน" จึงไม่สามารถคาดหวังประสิทธิภาพที่เหมือนกันได้ งานสัมนานี้ได้รับความสนใจจากทีม Technical & Research ของ MRCA (Mid-West Roofing Contractor Association) ถ้าแปลเป็นไทยคือ “สมาคมผู้รับเหมาหลังคา” คณะกรรมการขององกรณ์นี้ได้ออกจดหมายแจ้งเตือนสมาชิก (advisory) ให้ระวังการเลือกใช้แผ่นกันซึม TPO

มีความน่าสนใจในข้อความสุดท้ายจดหมายฉบับนี้ “วัสดุที่ทนต่อสภาพแวดล้อมดังกล่าว” นั้นน่าจะหมายถึงแผ่นกันซึม PVC เพียงแค่ไม่สามารถระบุในเอกสารตรงๆได้

หนังสือแจ้งเตือนของ MRCA ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตแผ่นกันซึม TPO ในอเมริกาจนเกิดการรวมตัวของผู้ผลิตแผ่นกันซึม TPO เพื่อกดดัน MRCA ให้ลบจดหมายแจ้งเตือนฉบับนี้ออกจากเวปไซด์ ทำให้จดหมายฉบับนี้หายไปจากโลกทันทีและยากที่จะหาเจอ

อย่างไรก็ตามจดหมาย MRCA ส่งผลให้ในปี 2010 ในที่ประชุม NRCA’s Technical Operations Committee ได้รวบรวมข้อมูลจาก MRCA เพื่อนำมาพูดคุยและได้ข้อสรุปว่า มีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงมาตรฐานการผลิตและทดสอบคุณภาพของแผ่นกันซึม TPO เพื่อแก้ไขปัญหา มาตรฐานดังกล่าวคือ "ASTM D6878" ได้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทดสอบ และกำหนดมาตรฐานใหม่ที่สูงขึ้น แต่มาตรฐานใหม่ที่นำมาปรับใช้นี้ พึ่งเกิดขึ้นล่าสุดเมื่อปี 2011 และยังมีความไม่แน่นอนว่าจะมีการแก้ไขมาตรฐานอีกครั้งหรือไม่ อีกทั้งการแก้ไขมาตรฐานนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานหลายปี กว่าจะได้ข้อสรุปในแต่ละครั้ง จึงมีความเสี่ยงหากเลือกใช้ TPO ในช่วงเวลาที่ผลิตภัณฑ์ยังมีจุดอ่อน และยังต้องมีการพัฒนาอีกมาก

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือแผ่นกันซึม TPO ไม่ผ่านการทดสอบการลามไฟ ทั้งๆที่มี FM approval เราได้ทำการทดลองจุดไฟเผาแผ่นกันซึม PVC และ TPO พร้อมกันแล้วพบว่าแผ่นกันซึม TPO เป็นเชื่อเพลิงที่ดีมาก ไฟสามารถลุกลามต่อเนื่องเป็นเวลานานจนไหม้หมดทั้งแผ่น แต่แผ่นกันซึม PVC จะติดไฟแต่ไม่ลามไฟ เมื่อเรานำแหล่งกำเนิดไฟออก ไฟจะไม่ลุกลามและดับลงภายใน 5 วินาที

US Department of Defence ได้ระบุในเอกสารสเปคกลางว่า “อนุญาติให้ใช้ TPO ต่อเมื่อคาดหวังอายุการใช้งานที่ต่ำกว่า 10 ปีเท่านั้น” และยังระบุด้วยว่า "PVC มีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุดในบรรดาแผ่น thermoplastic ทั้งหมด"
ดาวน์โหลดเอกสารสเปคฉบับเต็มได้ที่ download

"โครงการที่มหาวิทยาลัยเนวาดา - ลาสเวกัสมี 11 หลังคา TPO ที่เกิดปัญหา โดยหลังคาทั้งหมดมีอายุน้อยกว่า 10 ปี และมีหนึ่งหลังคาที่ล้มเหลวหลังจากติดตั้งได้เพียงสามปี และหลังคาได้ถูกเปลี่ยนใหม่ด้วยเมมเบรน TPO จากผู้ผลิตรายเดียวกัน แต่ก็ล้มเหลวอีกภายใน 2½ ปีต่อมา"

‍พรีเซนเทชั่นในหัวข้อเรื่อง A critical review of the lifespan of TPO, PVC and other single ply roof membrane โดย Karim Allana จาก Buick & Bers ในที่ประชุม winter workshop ของ RCI

อ่านมาถึงตรงนี้ทุกท่านคงทราบดีแล้วถึงข้อจำกัดของ TPO ที่ไม่ทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนและรังสี UV ถ้าฝืนข้อจำกัดแล้วนำมาใช้งานในเมืองไทยจะเกิดอะไรขึ้น ขอยกตัวอย่างเคสปัญหาที่เราได้พบเจอสามที่ มีปัญหาคล้ายกันคือแผ่น TPO จะแห้งและผิวบางจนเห็นชั้นตาข่าย (scrim) และรอยต่อ (overlap) ของแผ่นเปิดออกทำให้น้ำไหลเข้า

เราไม่อยากให้มองว่าบทความนี้คือการออกมาโจมตี TPO เพื่อหวังผลทางการค้า เพียงเพราะเราขาย PVC

‍Core value ของบริษัทเราคือ “To uphold the highest standard for our valued customers” สินค้าที่เรานำเสนอจะต้องอยู่บนพื้นฐานของ core value บริษัท ซึ่งต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกวัสดุและตรวจสอบคุณภาพ จึงไม่แปลกที่สินค้าบริษัทเรามีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมันทั้งหมด เรามองว่าการนำเสนอสินค้า คือการผูกมัดชื่อเสียงของบริษัทไว้กับสิ่งที่เรานำเสนอ เราไม่ได้คัดเลือกเพียงแค่วัสดุ แต่เราคัดเลือกผู้ผลิตและแหล่งผลิตสินค้าด้วย เพราะเราทราบดีว่า ผู้ผลิตแต่ละเจ้าคุณภาพไม่เท่ากัน ผู้ผลิตบางรายย้ายฐานการผลิตมาที่จีน เพื่อลดต้นทุนในการผลิต เราจะหลี่กเลี่ยง supplier ประเภทนี้อย่างเด็ดขาด เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องงานหลังคา Flat Roof และลูกค้าหวังพึ่งเราให้นำเสนอโซลูชั่นคุณภาพที่จะต้องมีอายุการใช้งานยาวนาน หากสินค้าที่เรานำเสนอมีปัญหาตามมาภายหลัง เราต้องแสดงความรับผิดชอบ

เราก็เคยพิจารณานำแผ่นกันซึม TPO มาเปรียบเทียบกับ PVC เพื่อนำเสนองานให้ผู้ออกแบบและลูกค้า จากการค้นหาข้อมูลและปัญหาการใช้งานจริงที่เจอ ทำให้เรามองไม่เห็นความได้เปรียบของ TPO เมื่อคำนึงถึงความเสี่ยงที่เราต้องแบกรับ (อายุการใช้งานที่สั้นกว่า PVC, เป็นวัสดุที่ลามไฟ, ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้บริเวณที่มีอุณหภูมิสูง) ดังนั้นจนกว่าผู้ผลิต TPO จะพัฒนาสูตรที่คงที่ และมีข้อมูลการใช้งานจริงที่ยาวนานกว่า PVC เราจำเป็นต้องนำเสนอทางเลือกที่ดีกว่าให้กับลูกค้าเรา